คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 2 มิถุนายน 2025

คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 2 มิถุนายน 2025
Table of Contents

หุ้นสหรัฐถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายวิเคราะห์หุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

คุยหุ้นสหรัฐวันนี้ (US 500/ S&P 500)

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานหุ้นสหรัฐ

ตลาดหุ้นทั่วโลกปิดสัปดาห์และเดือนด้วยการปรับตัวขึ้น โดย S&P 500 และ Nasdaq ทำสถิติการปรับขึ้นรายเดือนสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 จากความตึงเครียดทางการค้าที่คลี่คลายลงและผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แม้ว่าความไม่แน่นอนเรื่องภาษีศุลกากรจะทำให้ตลาดผันผวนตลอดทั้งสัปดาห์ก็ตามค่ะ

สำหรับเดือนที่ผ่านมา S&P 500 ฟื้นตัวจากความปั่นป่วนระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน โดยแรงหนุนจากความสนใจของนักลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและ AI ซึ่งช่วยต้านทานแรงกดดันจากข่าวเรื่องภาษีศุลกากรได้ค่ะ แต่นักวิเคราะห์ก็ยังคงเตือนว่าเรื่องภาษีศุลกากรที่ยังคาราคาซังอาจทำให้ตลาดผันผวนต่อเนื่องในสัปดาห์ข้างหน้าค่ะ

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เผชิญการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์เรื่องภาษีศุลกากรที่สลับไปมาทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล โดยความเชื่อมั่นในตลาดช่วงแรกมาจากการตัดสินใจเลื่อนการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปออกไป รวมทั้งผลประกอบการของ Nvidia (NASDAQ: NVDA) ที่ออกมาดีกว่าที่คาดค่ะ อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการจำกัดธุรกิจด้านเทคโนโลยีของจีน โดยเฉพาะหลังจาก Nvidia เตือนว่ารายได้จากการขายชิปให้จีนอาจหายไป 8 พันล้านดอลลาร์ ก็ยังกดดันกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์อยู่ค่ะ

ความผันผวนยิ่งเพิ่มขึ้น หลังจากศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ มีคำสั่งฟื้นฟูการจัดเก็บภาษีของทรัมป์ที่เคยถูกศาลการค้าปัดตกไปก่อนหน้านี้ ทำให้ความกังวลเรื่องภาษีลุกลามไปถึงเดือนมิถุนายนค่ะ ขณะที่ทรัมป์เองยังกล่าวหาจีนว่าละเมิดข้อตกลงการค้า จึงยิ่งทำให้สถานการณ์ไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้นค่ะ

ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 ทรงตัวเมื่อสัปดาห์ก่อน ลดลง 0.01% แต่สำหรับเดือนพฤษภาคม ดัชนีบวกถึง 6.2% ซึ่งถือเป็นผลงานรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบ 18 เดือนค่ะ ขณะที่ Nasdaq ปรับลง 0.32% แต่ทั้งเดือนทะยานขึ้นถึง 9.6% ส่วน Dow Jones เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.13% ค่ะ

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ S&P 500 จะดูอ่อนแรง แต่หุ้นรายตัวกลับมีการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ Nvidia ร่วงเกือบ 3% เพราะความกังวลเรื่องข้อจำกัดการค้ากับจีน แต่ทั้งสัปดาห์ยังบวกได้ 2.4% หลัง Wolfe Research มองแนวโน้มเชิงบวกในครึ่งปีหลังค่ะ Veeva Systems (VEEV) ทำผลงานเกินคาดและให้แนวโน้มสดใส ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นกว่า 18% ขณะที่ Ulta Beauty (NASDAQ: ULTA) พุ่ง 11.8% หลังจากปรับเพิ่มแนวโน้มกำไรค่ะ

ในทางกลับกัน Regeneron Pharmaceuticals (NASDAQ: REGN) ร่วงหนัก 19% เมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากผลการทดลองยารักษา COPD ออกมาไม่น่าพึงพอใจค่ะ และ Dell Technologies (NYSE: DELL) กลับปรับขึ้นหลังจากปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรทั้งปี แม้รายไตรมาสจะออกมาผสมผสานค่ะ

นอกจากนี้ E.L.F. Beauty (ELF) พุ่งขึ้น 34% หลังการเข้าซื้อกิจการ rhode มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ และผลประกอบการที่สดใสค่ะ Unity Software (U) ทะยาน 20% หลังจากได้รับการปรับเพิ่มเรตติ้งจาก Jefferies ส่วน Tempus AI (TEM) ร่วง 12.6% ในสัปดาห์นี้ หลัง Spruce Point ออกรายงาน Short ที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับบัญชีค่ะ

ในกลุ่มเทคโนโลยีและ AI หุ้น Apple (AAPL) อาจได้ประโยชน์จากภาษีศุลกากร ตามความเห็นของ Loop Capital ที่ชี้ว่าราคา iPhone สูงขึ้นและคาดการณ์ยอดขาย iPhone 17 ที่ 100 ล้านเครื่องค่ะ ด้าน AMD ได้รับการปรับเพิ่มเรตติ้งเป็น “Hold” จาก HSBC เนื่องจากแนวโน้ม AI ที่ดีขึ้นและความตึงเครียดทางการค้าที่ผ่อนคลายลงค่ะ ขณะที่ Redburn Atlantic วิเคราะห์หุ้น Broadcom (AVGO) และ Arista (ANET) โดยให้เรตติ้ง “Buy” จากจุดแข็งในโครงสร้างพื้นฐาน AI ท่ามกลาง Marvell (MRVL) ที่ถูกจัดเป็น “Neutral” และรอดูผลประกอบการชัดเจนกว่านี้ค่ะ

ด้าน RBC ปรับลดเรตติ้ง Salesforce (CRM) ลงเหลือ “Sector Perform” เนื่องจากความเสี่ยงจากดีลซื้อ Informatica มูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ค่ะ และ SoundHound AI (SOUN) ได้รับเรตติ้ง “Overweight” จาก Piper Sandler ที่มองว่าเป็นการลงทุนทางตรงในกระแสปฏิวัติเทคโนโลยี AI พร้อมทั้งพบการเติบโตของผู้สมัครใช้งานอย่างแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ แม้ข้อมูลเงินเฟ้อจะบ่งชี้ถึงแรงกดดันที่ผ่อนคลายลง โดยดัชนี PCE เดือนเมษายนเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% แต่นักลงทุนก็ยังคงจับตาการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเฟดอยู่ค่ะ โดยส่วนใหญ่คาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน หากแนวโน้มเงินเฟ้อยังทรงตัวค่ะ

ท่ามกลางข้อมูลเหล่านี้ คุณน้าเห็นว่านักลงทุนยังคงใช้ความระมัดระวังอยู่ ขณะที่สภาผู้แทนฯ ของสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายภาษีที่มุ่งเก็บจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งอาจกระทบต่อความต้องการถือพันธบัตรรัฐบาลและกดดันค่าเงินดอลลาร์ที่ปีนี้อ่อนค่าลงแล้ว 8% ค่ะ โดย Morgan Stanley เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงภาษีนี้อาจทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงอีก เนื่องจากอาจขัดขวางการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศได้ค่ะ

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคหุ้นสหรัฐ

คุยหุ้นสหรัฐ วันที่ 2 มิถุนายน 2025

สำหรับภาพรวมรายเดือนที่ผ่านมาของดัชนี S&P 500 (US500) ยังคงดูดี โดยดัชนีบวก 6.2% ในเดือนพฤษภาคม นับเป็นผลงานรายเดือนที่ดีที่สุดนับตั้งแต่พฤศจิกายน 2023 ตัวชี้วัดโมเมนตัมทางเทคนิคระยะสั้นยังคงเป็นบวก โดย RSI 14 วัน อยู่เหนือระดับ 55 บ่งชี้ถึงภาวะ “Overbought” ในระดับอ่อน ๆ แต่ยังไม่มีสัญญาณกลับตัวชัดเจน

แนวต้านสำคัญอยู่แถว 5,925–5,950 จุด ถ้าดัชนีสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้อย่างมั่นคง คุณน้าว่าเป้าหมายจิตวิทยาถัดไปคือระดับ 6,000 จุดค่ะ อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นยังมีโอกาสย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 5,850–5,820 จุด ซึ่งเป็นโซนที่มีเส้น EMA 21 วันหนุนอยู่ หากดัชนีหลุดต่ำกว่าแนวรับนี้ อาจถอยลึกลงไปแถว 5,750 จุด ซึ่งตรงกับเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันค่ะ

โดยรวมคุณน้าว่าทิศทางขาขึ้นยังคงอยู่เหนือ 5,800 จุดได้ดี โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายและคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในเดือนกันยายน แต่ความผันผวนก็ยังคงมีต่อเนื่องจากความไม่แน่นอนเรื่องภาษีและสภาพเศรษฐกิจที่หลากหลายค่ะ

📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (US 500/ S&P 500)

  • แนวรับสำคัญ : 5874.0, 5845.0, 5798.1
  • แนวต้านสำคัญ : 5967.8, 5996.8, 6043.7

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ที่มา : Forexfactory

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

กำหนดการรายงานผลประกอบการ

ที่มา : TradingView

📍หุ้นสหรัฐที่น่าจับตามอง

  • Nvidia (NVDA): หลังจากพุ่งแรงช่วงครึ่งปีแรก NVDA ยังรักษาแนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง–ยาวได้อยู่ค่ะ แต่ RSI ระยะสั้นเกิน 70 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะ Overbought อาจมีการพักฐานระยะสั้นเพื่อย่อปรับฐาน ขณะที่ Wolfe Research ประเมินว่า ครึ่งปีหลังจะกลับมาแข็งแกร่ง หนุนให้แนวโน้มระยะกลางยังดูเป็น “ขาขึ้น” ค่ะ
  • E.L.F. Beauty (ELF): คุณน้าเห็นว่าภาพรวมยังคงเป็นขาขึ้นระยะกลางถึงระยะยาวค่ะ โดยแนวรับสำคัญของ ELF อยู่ในโซน $100–$105 ถ้าราคาย่อมาแถวนี้ คุณน้าคิดว่าเป็นจังหวะที่น่าสนใจสำหรับการสะสมค่ะ ขณะที่แนวต้านหลักอยู่แถว $115–$120 ค่ะ
  • Unity Software (U): โดยตอนนี้แนวรับอยู่แถว $25–$24.50 ซึ่งเป็นฐานสำคัญ ส่วนแนวต้านแรกของ Unity อยู่ที่ $27–$28 ถ้าผ่านได้จะเปิดโอกาสไปสู่เป้าหมาย $30 ขณะที่ RSI อยู่ในโซน 50–55 สะท้อนให้เห็นว่าโมเมนตัมยังไม่ชัดเจนแต่ก็ไม่ได้อ่อนแรง คุณน้าคิดว่ารอบนี้ Unity อาจมีลุ้นกลับตัวถ้าผ่าน $28 ได้สำเร็จค่ะ
  • Regeneron Pharmaceuticals (REGN): ภาพรวมระยะกลางยังถือว่าเป็นการแกว่งตัว Sideways อยู่ แนวรับสำคัญตอนนี้คือ $480–$475 ถ้าหลุดลงมาอาจไหลต่อไปถึง $450 ได้ค่ะ แต่ถ้าสามารถยืนเหนือ $475 ก็พอที่จะลุ้นการรีบาวด์ระยะสั้นได้ โดย RSI ตอนนี้อยู่ในโซน 40–45 สะท้อนให้เห็นภาวะ Oversold เล็ก ๆ ซึ่งอาจจะช่วยให้เกิดแรงซื้อกลับเข้ามาในระยะสั้น แต่คุณน้าก็ยังคงมองว่าภาพใหญ่ยังมีแรงกดดันจากความไม่แน่นอนอยู่ค่ะ

🔍คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX

เทรดหุ้น CFD กับ IUX โบรกเกอร์หุ้นค่าธรรมเนียมถูก

IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยที่มีต้นทุนจำกัดแล้วต้องการซื้อขายหุ้นระดับโลก

สรุปคุยหุ้นสหรัฐและแนวโน้มในการลงทุน

จุดน่าเข้า Buy

  • Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 5814.0 – 5874.0 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 5874.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5968.8 และ SL ที่ประมาณ 5784.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 5967.8 – 6027.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 6098.0 และ SL ที่ประมาณ 5844.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                                          

จุดน่าเข้า Sell

  • Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 5967.8 – 6027.8 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 5967.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5846.0 และ SL ที่ประมาณ 6057.8 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
  • Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 5814.0 – 5874.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5724.0 และ SL ที่ประมาณ 5998.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

บทวิเคราะห์นี้ใช้สำหรับการศึกษาข้อมูลของหุ้นสหรัฐเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ประกอบกับศึกษาแนวโน้มหุ้นและข่าวสหรัฐก่อนตัดสินใจลงทุน


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
Recent Post
วิเคราะห์ USDCAD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 24 มิถุนายน 2025
วิเคราะห์ USDCAD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 24 มิถุนายน 2025

พบกับวิเคราะห์ USDCAD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์คู่เงิน AUDUSD 23 มิถุนายน 2025
บทวิเคราะห์ AUDUSD วันที่ 23 มิถุนายน 2025

พบกับวิเคราะห์ AUDUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 23 มิถุนายน 2025
คุยหุ้นสหรัฐ เจาะลึกทุกมุมมอง วันที่ 23 มิถุนายน 2025

ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายหุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!

บทวิเคราะห์คู่เงิน EURUSD 22 มิถุนายน 2025
บทวิเคราะห์ EURUSD วันที่ 22 มิถุนายน 2025

พบกับวิเคราะห์ EURUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

[elfsight_cookie_consent id="1"]

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy