หุ้นสหรัฐถือเป็นหุ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งการเคลื่อนไหวของหุ้นสหรัฐเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาคุยหุ้น เจาะลึกปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงความเสี่ยงและมุมมองในการลงทุน สายวิเคราะห์หุ้นสหรัฐห้ามพลาดบทความนี้!
คุยหุ้นสหรัฐวันนี้ (US30 / DJIA)
บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานหุ้นสหรัฐ
ดัชนี Dow Jones Industrial Average (DJIA) โชว์ฟอร์มแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปรับตัวขึ้น 1.17% และปิดตลาดวันศุกร์ที่ระดับ 42,762.62 จุด ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 3 เดือนเลยค่ะ การปรับขึ้นรอบนี้มีแรงหนุนหลักมาจากรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ ช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และลดแรงกดดันที่ Fed จะต้องรีบลดดอกเบี้ยในทันที
นักลงทุนมองว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้น และอัตราการว่างงานที่ทรงตัวอยู่ที่ 4.2% เป็นสัญญาณของตลาดแรงงานที่ยังแข็งแรงอยู่ค่ะ ซึ่งส่งผลบวกต่อภาพรวมตลาด โดยดัชนี S&P 500 ก็ปิดเหนือระดับ 6,000 ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ Nasdaq ก็พุ่งขึ้นมากกว่า 2% ในสัปดาห์เดียว เรียกได้ว่าทุกดัชนีกำลังเข้าใกล้จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง แม้ว่าบรรยากาศการลงทุนยังคงเต็มไปด้วยความระมัดระวังจากประเด็นสงครามการค้าและความไม่แน่นอนทางนโยบายการคลังค่ะ
ในบรรดาหุ้นที่อยู่ใน DJIA และหุ้นใหญ่ตัวอื่น ๆ ที่น่าจับตามองนั้น Tesla ดีดตัวกลับมาได้ 3.8% ในวันศุกร์ หลังร่วงหนักกว่า 15% ในวันก่อนหน้า เพราะมีประเด็นปะทะกันระหว่าง Elon Musk และประธานาธิบดี Donald Trump อย่างไรก็ตาม แม้จะรีบาวด์ได้ แต่ Tesla ก็ยังปิดสัปดาห์ด้วยการปรับตัวลงกว่า 13% อยู่ดี จากแรงกดดันที่ Trump ขู่ว่าจะตัดสัญญากับรัฐออกทั้งหมด
Amazon และ Alphabet ก็มีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศเชิงบวกให้ตลาด โดยปรับขึ้น 2.7% และ 3.25% ตามลำดับ ส่วนฝั่งของหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคอย่าง Procter & Gamble ที่อยู่ใน DJIA ด้วยนั้น กลับร่วงลงประมาณ 3.6% ตลอดทั้งสัปดาห์ หลังประกาศแผนเลิกจ้างพนักงานกว่า 7,000 คน ซึ่งไม่ใช่จากการลดต้นทุนโดยตรง แต่เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
สำหรับกลุ่มวัตถุดิบหรือสินค้าพื้นฐาน Cleveland-Cliffs พุ่งขึ้นกว่า 30% เลยทีเดียว เพราะได้รับแรงหนุนจากนโยบายของ Trump ที่เตรียมเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมเป็นสองเท่า ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในผู้ผลิตในประเทศกลับมาอีกครั้งค่ะ
ในอีกฟากหนึ่งของตลาด หุ้น Brown-Forman ร่วงลงเกือบ 18% หลังผลประกอบการรายไตรมาสทั้งรายได้และกำไรต่ำกว่าคาด แถมแนวโน้มในอนาคตยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนทั้งด้านเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ส่วน Lululemon ก็ทรุดหนักถึง 19.8% เพราะลดคาดการณ์กำไรลง จากต้นทุนที่สูงขึ้นจากภาษีนำเข้า ขณะที่ Broadcom ก็ปรับลง 5% จากแนวโน้มรายได้ที่น่าผิดหวังค่ะ
ด้านบวกก็ยังพอมีให้ชื่นใจบ้าง อย่าง Wells Fargo ที่ปรับขึ้น 1.9% หลัง S&P Global ปรับแนวโน้มของธนาคารขึ้น พร้อมกับข่าวดีที่ Wells Fargo หลุดจากข้อจำกัดเรื่องสินทรัพย์มูลค่า $1.95 ล้านล้านเหรียญ
ในข่าว IPO ที่น่าสนใจ Circle Internet Group ผู้ให้บริการด้าน Stablecoin ก็พุ่งขึ้นเกือบ 250% ตั้งแต่เริ่มเข้าตลาด โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสความตื่นตัวเกี่ยวกับบทบาทของบริษัทในระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลค่ะ
ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าจะให้ความสำคัญกับตัวเลขเงินเฟ้อ โดยเฉพาะรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพฤษภาคม ซึ่งอาจมีผลต่อความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะดำเนินนโยบายการเงินต่อไปอย่างไร ทั้งนี้ คุณน้าคิดว่าตลาดยังต้องจับตาเรื่องท่าทีของ Trump เกี่ยวกับนโยบายภาษี และกฎหมายงบประมาณที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ เพราะอาจสร้างแรงกระเพื่อมต่อตลาดได้ แม้ดัชนีต่าง ๆ จะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในช่วงหลังนี้แล้วก็ตามค่ะ
บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิคหุ้นสหรัฐ

ในมุมมองทางเทคนิค ดัชนี US30 (Dow Jones Futures) ได้เบรกกรอบสะสม (Consolidation) ที่อยู่ระหว่าง 41,000 ถึง 42,000 ขึ้นมาอย่างชัดเจน สะท้อนแรงโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยแนวต้านระยะสั้นต่อไปอยู่ที่ระดับจิตวิทยา 43,000 จุด ขณะที่แนวรับใกล้ที่สุดอยู่ที่บริเวณ 42,200 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านเดิมที่อาจกลายเป็นแนวรับใหม่หากมีการย่อตัวค่ะ
ดัชนี RSI ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 68 ใกล้เขต Overbought ซึ่งอาจบ่งชี้ว่ามีโอกาสเกิดการพักฐานหรือย่อเล็กน้อยในระยะสั้น ก่อนจะขึ้นต่อได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน ได้ตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นอยู่ค่ะ และเส้นแนวโน้ม (Trendline) ที่ลากขึ้นตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมก็ยังคงส่งสัญญาณสนับสนุนการขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะถ้าข้อมูลเศรษฐกิจออกมาในเชิงบวกหรือไม่รุนแรงมาก
ถ้า US30 สามารถยืนเหนือ 42,700 จุดต่อเนื่องไปจนถึงกลางเดือนมิถุนายนได้ คุณน้ามองว่ามีโอกาสสูงที่จะทะลุขึ้นไปทดสอบกรอบ 43,300–43,500 จุดได้ค่ะ แต่ถ้าหลุดแนวรับ 42,200 จุดลงมา จะเป็นสัญญาณของการพักตัวลึกลง โดยอาจถอยลงมาบริเวณ 41,500–41,600 จุด โดยเฉพาะหากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาร้อนแรงกว่าคาด หรือมีประเด็นภูมิรัฐศาสตร์กลับมากดดันตลาดอีกครั้งค่ะ
📍ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (US30 / DJIA)
- แนวรับสำคัญ : 42711.4, 42683.6, 42638.5
- แนวต้านสำคัญ : 42801.6, 42829.4, 42874.5
ข่าวที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มหุ้นสหรัฐ

ที่มา : Forexfactory
กำหนดการรายงานผลประกอบการ

ที่มา : TradingView
📍หุ้นสหรัฐที่น่าจับตามอง
- Tesla (TSLA): ช่วงนี้หุ้น Tesla มีแนวโน้มจะรีบาวด์กลับขึ้นมา หลังจากที่ราคาปรับตัวลงแรงกว่า 13% ในสัปดาห์ก่อน โดยล่าสุดราคาปิดอยู่ที่ $295.14 ซึ่งสูงกว่าระดับแนวต้านเดิมพอสมควร สัญญาณจาก RSI เริ่มขยับขึ้นจากระดับต่ำกว่า 30 ซึ่งบ่งบอกว่าอาจเกิดแรงซื้อระยะสั้นค่ะ แนวรับถัดไปอยู่ที่ $280 ส่วนแนวต้านถัดไปคือ $305 และ $320 คุณน้าแนะนำว่า ถ้าจะเทรด ควรเน้นเก็งกำไรระยะสั้นตามแรงดีดกลับค่ะ แต่ต้องระวังเรื่องความผันผวนที่ยังสูงอยู่ด้วยนะคะ
- Procter & Gamble (PG): ราคาล่าสุดของหุ้น PG อยู่ที่ $164.02 หลังจากร่วงแรงจากข่าวการปลดพนักงานค่ะ ตอนนี้ราคากำลังเข้าสู่โซน Oversold โดย RSI เข้าใกล้ระดับ 30 ซึ่งอาจกระตุ้นความสนใจจากนักลงทุนสาย Value ได้ค่ะ แนวรับสำคัญอยู่ที่ $160 ส่วนแนวต้านถัดไปคือ $168–170 ถ้าราคาสามารถกลับมายืนเหนือ $165 ได้ คุณน้าคิดว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นในการสะสมหุ้นสำหรับการลงทุนระยะกลางได้ค่ะ
- Alphabet (GOOG): หุ้น GOOG ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $174.92 ซึ่งกำลังเคลื่อนไหวใกล้เส้นแนวรับ โดยเส้นค่าเฉลี่ย EMA 20 และ 50 วัน ยังคงเรียงตัวเป็นขาขึ้นอยู่ค่ะ แนวรับสำคัญอยู่ที่ $174 และแนวต้านถัดไปคือ $185–188 ถ้าราคาทะลุแนวต้านขึ้นไปได้ คุณน้าแนะนำให้ถือรันเทรนด์ต่อไปได้เลยค่ะ
- Amazon (AMZN): หุ้น Amazon ล่าสุดอยู่ที่ $213.57 ซึ่งทะลุแนวต้านเดิมที่ $186 มาไกลมากแล้วนะคะ พร้อมกับ Volume ซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รูปแบบกราฟยังคงแสดงลักษณะของแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่องค่ะ แนวรับใหม่ขยับขึ้นมาอยู่ที่ $208 ส่วนแนวต้านถัดไปอยู่แถว ๆ $220 คุณน้าแนะนำให้ใช้กลยุทธ์ Hold หรือรอจังหวะ Pullback เพื่อเข้าสะสมเพิ่มค่ะ
- Lululemon (LULU): ราคาล่าสุดของหุ้น LULU อยู่ที่ $265.27 หลังจากที่ร่วงจาก $340 อย่างรุนแรง และยังไม่สามารถกลับตัวได้ชัดเจนค่ะ RSI ยังคงต่ำกว่า 30 อยู่ แสดงถึงภาวะ Oversold อย่างรุนแรง แต่คุณน้ายังไม่เห็นสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจน แนวรับถัดไปคือ $260 และแนวต้านอยู่ที่ $280 หากไม่มีสัญญาณ Divergence เชิงบวก หรือรูปแบบฐานราคาที่แข็งแรง คุณน้ายังไม่แนะนำให้เปิด Long position ค่ะ
🔍คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX

IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ทำให้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยที่มีต้นทุนจำกัดแล้วต้องการซื้อขายหุ้นระดับโลก
สรุปคุยหุ้นสหรัฐและแนวโน้มในการลงทุน (US30 / DJIA)
จุดน่าเข้า Buy
- Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 42491.4 – 42711.4 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 42711.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 42810.0 และ SL ที่ประมาณ 42381.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 42801.6 – 43021.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 43104.0 และ SL ที่ประมาณ 42601.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดน่าเข้า Sell
- Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 42801.6 – 43021.6 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 42801.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 42692.0 และ SL ที่ประมาณ 43131.6 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
- Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 42491.4 – 42711.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 42365.0 และ SL ที่ประมาณ 42912.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
คำเตือน
บทวิเคราะห์นี้ใช้สำหรับการศึกษาข้อมูลของหุ้นสหรัฐเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ประกอบกับศึกษาแนวโน้มหุ้นและข่าวสหรัฐก่อนตัดสินใจลงทุน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge