วิเคราะห์ USDCAD ดูแนวโน้มราคาล่าสุด วันที่ 20 พฤษภาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ USDCAD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค อีกทั้งแนวทางในการเข้าออกออเดอร์ ไปจนถึงคำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดคู่เงินแบบละเอียด เรียกได้ว่าครบจบในบทความเดียว!

บทวิเคราะห์ Forex วันนี้ : คู่เงิน USDCAD

บทวิเคราะห์ภาพรวมปัจจัยพื้นฐาน

นายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ ประกาศว่ารัฐบาลกลางจะจัดทำงบประมาณแบบครอบคลุมในช่วงฤดูใบไม้ร่วง แทนที่จะเร่งรัดงบประมาณในระยะสั้น และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรอผลการประชุมสุดยอด NATO และการหารือกับสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นก่อนสรุปร่างงบประมาณ โดยงบประมาณช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายด้านกลาโหม ความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจ และประสิทธิภาพในภาครัฐเป็นหลักค่ะ

ระหว่างเดินทางเยือนวาติกันเพื่อเข้าร่วมพิธีสถาปนาสมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 นายกรัฐมนตรีคาร์นีย์และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจดี แวนซ์ ได้จัดการประชุมทวิภาคีที่กรุงโรม โดยหารือกันในประเด็นเกี่ยวกับการค้าที่ยุติธรรม ความมั่นคงบริเวณชายแดน การควบคุมปัญหายาเฟนทานิล และการลงทุนด้านกลาโหมที่เข้มข้นขึ้น โดยทั้งสองประเทศมีเป้าหมายร่วมกันในการยุติข้อพิพาทด้านภาษีที่ยังดำเนินอยู่ และเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของ Bloomberg/Nanos พบว่า ประชาชนชาวแคนาดาเกือบ 80% เชื่อว่าความสัมพันธ์ดั้งเดิมระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดานั้น “จบลงแล้วอย่างแท้จริง” ความไม่ไว้วางใจในนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาษีและการขู่คุกคามจากประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ช่วยสนับสนุนกลยุทธ์ของนายคาร์นีย์ในการกระจายความเสี่ยงทางการค้าออกจากตลาดสหรัฐฯ ค่ะ

ถึงอย่างนั้น การพึ่งพาเชิงโครงสร้างยังคงสูงอยู่ โดยกว่า 75% ของการส่งออกของแคนาดายังคงมุ่งหน้าไปยังฝั่งสหรัฐฯ ค่ะ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของแคนาดาแสดงให้เห็นภาพที่หลากหลาย ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ยอดขายบ้านในเดือนเมษายนทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยลดลง 0.1% จากเดือนมีนาคม และลดลงเกือบ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ราคาบ้านก็ปรับตัวลง 1.2% ในเดือนเดียวกันค่ะ

อย่างไรก็ตาม จำนวนโครงการก่อสร้างบ้านใหม่กลับพุ่งขึ้นถึง 30% ซึ่งสะท้อนว่ากิจกรรมในภาคก่อสร้างยังคงแข็งแกร่งแม้เศรษฐกิจโดยรวมจะอ่อนตัว ส่วนการค้าส่งในเดือนมีนาคมเติบโตเล็กน้อย 0.2% โดยมีภาคยานยนต์และสินค้าเบ็ดเตล็ดเป็นผู้นำ ขณะที่หมวดวัสดุก่อสร้างยังคงตามหลัง และสินค้าคงคลังลดลง โดยเฉพาะหมวดสินค้าอุปโภคค่ะ

ทิศทางของกระแสเงินทุนก็สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของนักลงทุนเช่นกัน โดยในเดือนมีนาคม ชาวแคนาดาซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศมูลค่ารวม 15.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรของสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายหลักทรัพย์แคนาดาออกไปถึง 4.2 พันล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในตลาดหุ้นค่ะ

อย่างไรก็ดี ความต้องการพันธบัตรรัฐบาลแคนาดาระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากธนาคารกลางแคนาดาได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 2.75% ในเดือนมีนาคม ซึ่งช่วยกระตุ้นความสนใจของตลาดค่ะ

เมื่อแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากภาษีสหรัฐฯ เริ่มปรากฏชัดมากขึ้น นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางแคนาดาจะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ท่ามกลางภาคการผลิตที่เริ่มส่งสัญญาณถดถอย โดยทั้งยอดขายและการจ้างงานต่างลดลง รวมถึงภาคที่อยู่อาศัยที่ยังเปราะบาง ซึ่งทั้งหมดนี้คาดว่าจะผลักดันให้มีการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในช่วงปีหน้า โดยนักวิเคราะห์คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงไปแตะระดับ 2.00% ภายในสิ้นปี 2025 ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อกับยอดขายปลีกที่จะประกาศในเดือนพฤษภาคมนี้ จะเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางดอกเบี้ยในอนาคตค่ะ

ในฝั่งสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์เริ่มเผชิญแรงกดดัน หลังจากที่ Moody’s ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศจาก AAA เหลือ Aa1 โดยให้เหตุผลว่า สหรัฐฯ มีหนี้สาธารณะสูงถึง 36 ล้านล้านดอลลาร์ และยังไม่มีการปฏิรูปทางการคลังที่เป็นรูปธรรมจากรัฐบาล แม้ว่าการปรับลดนี้จะมีผลทางจิตวิทยามากกว่า และโอกาสผิดนัดชำระหนี้ยังคงต่ำ แต่ตลาดกลับตอบสนองอย่างรุนแรง

จังหวะของการลดอันดับเครดิตนั้นเกิดขึ้นพร้อมกับการลงมติในสภาคองเกรสเกี่ยวกับแผนปฏิรูประบบภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจทำให้ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3–5 ล้านล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า แม้ว่าจะมีการต่อต้านจากสมาชิกรีพับลิกันสายอนุรักษนิยม แต่สภาก็ได้ผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวให้เดินหน้าต่อไป

ความวิตกของนักลงทุนยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อรวมกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงและการคาดการณ์เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2022 โดยสาเหตุหลักมาจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของทรัมป์และภาษีที่สูงขึ้นค่ะ

เมื่อนำทุกปัจจัยมารวมกัน คุณน้าเห็นว่าภาพรวมของเศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอนมากขึ้นค่ะ ในสหรัฐฯ ความขัดแย้งทางการค้า วินัยทางการคลังที่ถดถอย และความไม่แน่นอนทางการเมือง ล้วนบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า “ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของอเมริกา” อาจดำเนินต่อไปอีกหลายปี เพราะความไม่มั่นใจต่อบทบาทผู้นำด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อค่าเงินดอลลาร์อยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างต่อเนื่อง ตลาดอาจเผชิญกับความผันผวนที่ยืดเยื้อ ขณะที่เงินทุนทั่วโลกมองหาพื้นที่ปลอดภัยมากขึ้น

บทวิเคราะห์ภาพรวมทางเทคนิค

คู่สกุลเงิน USD/CAD มีแนวโน้มขาขึ้นต่อในระยะสั้นถึงกลาง เนื่องจากความแตกต่างทางเศรษฐกิจมหภาค กระแสเงินทุน และความไม่สมดุลทางการคลังระหว่างสหรัฐอเมริกาและแคนาดาที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น

ในเชิงเทคนิค แรงโมเมนตัมบนกราฟรายวันของ USD/CAD ยังสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นค่ะ โดยคู่เงินนี้ได้ทะลุแนวต้านสำคัญแถว 1.3900 อย่างชัดเจน อีกทั้งเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันก็ได้ตัดขึ้นเหนือเส้น 100 วัน บ่งชี้ว่าโมเมนตัมยังเป็นบวกค่ะ ขณะที่ค่า RSI ก็ยังอยู่ในระดับสูงใกล้ 65 แต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะ overbought ซึ่งหมายความว่ายังมีโอกาสปรับขึ้นต่อได้ โดยจุดแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1.4040 และ 1.4120 ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1.3860 ซึ่งเป็นแนวต้านเดิม หากหลุดระดับนี้ อาจเห็นการย่อตัวระยะสั้นไปแถวระดับ 1.3740 ค่ะ

โดยสรุปแล้ว การคาดการณ์ USD/CAD ในช่วงนี้ มีแนวโน้มทดสอบระดับ 1.4040 ในระยะสั้น และหากธนาคารกลางแคนาดาส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม พร้อมกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาอ่อนแอ ก็มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไปแตะ 1.4120 ได้ค่ะ ส่วนการย่อตัวลงมาในโซน 1.3850–1.3900 มีแนวโน้มที่จะดึงดูดแรงซื้อเมื่อราคาตกลง (dip-buying) ได้อยู่ค่ะ

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลต่อคู่เงิน USDCAD

สรุปวิเคราะห์ USDCAD

จุดน่าเข้า Buy

• Buy/ Long 1 : หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3859 – 1.3927 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.3927 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3986 และ SL ที่ประมาณ 1.3825 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Buy/ Long 2 : หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3975 – 1.4043 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4078 และ SL ที่ประมาณ 1.3893 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                      

จุดน่าเข้า Sell

• Sell/ Short 1 : หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3975 – 1.4043 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.3975 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3923 และ SL ที่ประมาณ 1.4077 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
• Sell/ Short 2 : หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.3859 – 1.3927 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3845 และ SL ที่ประมาณ 1.4009 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

คำเตือน

การให้ข้อมูลการวิเคราะห์คู่เงิน Forex ทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชักชวนในการลงทุนแต่อย่างใด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจการลงทุน

สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge